Acts 1- Clear Word Bible (กิจการ 1)

กิจการ 1 (Clear Word Bible พระคัมภีร์ฉบับคำชัดเจน) พระคัมภีร์ สำหรับเซเวนธ์เดย์แอดเวนติสต์

 

Luke's Second Book to Theophilus

หนังสือเล่มที่สองของลูกาถึงธีโอฟีลัส

1 Dear Theophilus, in the first little volume I sent you, I wrote about what Jesus did and what He taught from the beginning of His ministry.

ถึงธีโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรกที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน ข้าพเจ้าได้บันทึกสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำและทรงสั่งสอนตั้งแต่เริ่มต้นพันธกิจของพระองค์

 

2 Until the day He was taken up into heaven. But He did not leave before giving instructions to the apostles He had chosen and promising them the Holy Spirit.

จนถึงวันที่พระองค์ถูกนำขึ้นไปยังสวรรค์ แต่ก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงให้คำสั่งแก่พวกอัครสาวกที่พระองค์ทรงเลือกสรร และพระองค์ได้สัญญาถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขา

 

3 For forty days after His resurrection He appeared to hundreds of His followers many times, giving them convincing proof that He was alive. He talked and ate with them and shared with them many things about God's kingdom.

เป็นเวลาสี่สิบวันหลังจากที่พระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ปรากฏตัวต่อผู้ติดตามของพระองค์หลายร้อยคนหลายครั้ง และทรงแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนว่าพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ตรัสกับพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกับพวกเขา และแบ่งปันหลายสิ่งเกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้า

Jesus Promises the Holy Spirit

พระเยซูทรงสัญญาพระวิญญาณบริสุทธิ์

 

4 At their last meeting together, He told them to wait in Jerusalem for the Holy Spirit whom the Father would send and whom He Himself had promised.

ในการพบกันครั้งสุดท้าย พระองค์ตรัสให้พวกเขารอคอยในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระบิดาจะทรงส่งมาและที่พระองค์เองทรงสัญญาไว้

 

5 He also told them that although John the Baptist had baptized with water, in just a few days they would be baptized with the Holy Spirit.

พระองค์ยังตรัสว่า แม้ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ให้บัพติศมาด้วยน้ำ อีกไม่กี่วันพวกเขาจะได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

 

6 They asked if now was the time for Him to set up His kingdom and restore the glory of Israel.

พวกเขาถามพระองค์ว่า บัดนี้ถึงเวลาที่พระองค์จะสถาปนาอาณาจักรของพระองค์และฟื้นฟูความรุ่งเรืองของอิสราเอลหรือไม่

 

7 He told them it wasn't necessary for them to know the dates and times the Father by His own authority has set to usher in His kingdom.

พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า ไม่จำเป็นที่พวกเขาต้องรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดด้วยสิทธิอำนาจของพระองค์ในการนำอาณาจักรของพระองค์มา

 

8 In the meantime, they would be empowered by the Holy Spirit to preach the good news of salvation to everyone, first in Jerusalem, then in Judea and Samaria, and finally to the whole world.

ในระหว่างนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงมอบพลังให้พวกเขาในการประกาศข่าวดีแห่งความรอดแก่ทุกคน เริ่มต้นที่กรุงเยรูซาเล็ม แล้วจึงไปยังแคว้นยูเดียและสะมาเรีย และสุดท้ายสู่ทั่วโลก

 

Jesus Ascends to Heaven

พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์

 

9 After the meeting was over, they walked through Jerusalem out to the Mount of Olives. There He said good-bye. Then as they watched, He was lifted off the ground, higher and higher up into the sky, until a cloud of angels welcomed Him and He disappeared from sight.

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น พวกเขาเดินผ่านกรุงเยรูซาเล็มไปยังภูเขามะกอกเทศ ที่นั่นพระองค์ตรัสลาพวกเขา จากนั้น ขณะที่พวกเขามอง พระองค์ทรงถูกยกขึ้นจากพื้นดิน สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเมฆของทูตสวรรค์ต้อนรับพระองค์ และพระองค์ก็หายไปจากสายตาของพวกเขา

 

10 While they were standing there hoping to catch one last glimpse of Jesus, suddenly two men dressed in white robes stood next to them and said,

ขณะที่พวกเขายืนอยู่ที่นั่น พยายามที่จะมองเห็นพระเยซูเป็นครั้งสุดท้าย ทันใดนั้นมีชายสองคนในชุดสีขาวมายืนอยู่ข้างพวกเขา และกล่าวว่า

11 "You Galileans, why are you standing here looking up into the sky? This same Jesus whom you have just seen go up to heaven will come back the same way you saw Him leave."

"ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุใดพวกท่านจึงยืนมองฟ้าอยู่? พระเยซูองค์นี้ที่พวกท่านเห็นขึ้นไปยังสวรรค์ จะเสด็จกลับมาในแบบเดียวกับที่พวกท่านเห็นพระองค์จากไป"

The Upper Room

ห้องชั้นบน

12 So they left the Mount of Olives which was only a short distance from Jerusalem and returned to the city.

ดังนั้น พวกเขาจึงออกจากภูเขามะกอกเทศ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเยรูซาเล็ม และกลับไปยังเมือง

 

13 When they got there, the eleven apostles returned to the upper room where they had been meeting. There were Peter and John, James and Andrew, Philip and Thomas, Bartholomew and Matthew, James, the son of Alphaeus, Simon the patriot, and the other Judas also called Thaddaeus, the son of a man named James.

เมื่อพวกเขามาถึง พวกอัครสาวกสิบเอ็ดคนก็กลับไปยังห้องชั้นบนที่พวกเขาเคยประชุมกันอยู่ มีเปโตร ยอห์น ยากอบ และอันดรูว์ ฟีลิป และโธมัส บารโธโลมิว และมัทธิว ยากอบ บุตรของอัลเฟอัส ซีโมนผู้เป็นชาตินิยม และยูดาสอีกคนหนึ่งที่เรียกว่าธัดเดอัส บุตรของชายคนหนึ่งชื่อยากอบ

14 They came together to pray and were soon joined by some of the women who had followed Jesus, including His mother Mary, as well as His stepbrothers.

พวกเขามารวมกันเพื่ออธิษฐาน และในไม่ช้าก็มีสตรีบางคนที่ติดตามพระเยซูร่วมอยู่ด้วย รวมถึงพระมารดามารีย์ และน้องชายต่างพ่อของพระองค์ด้วย

Judas Replaced

การแต่งตั้งแทนยูดาส

 

15 A day or so later, all the believers came together (about one hundred and twenty of them), and when they were all assembled, Peter stood up and said,

วันหรือสองวันต่อมา ผู้เชื่อทั้งหมดมารวมตัวกัน (ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบคน) และเมื่อพวกเขามารวมกันหมดแล้ว เปโตรลุกขึ้นกล่าวว่า

16 "Brothers and sisters, the Scriptures have been fulfilled, just as the Holy Spirit said when, through David, He told us that Judas would become a guide to those who arrested Jesus.

"พี่น้องทั้งหลาย พระคัมภีร์ได้เป็นจริงแล้ว ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสผ่านดาวิดว่า ยูดาสจะเป็นผู้นำทางแก่ผู้ที่มาจับกุมพระเยซู

 

17 Judas became a disciple because we urged Jesus to accept him into the group.

ยูดาสกลายเป็นสาวกเพราะเราร้องขอให้พระเยซูรับเขาเข้าในกลุ่ม

 

18 After he sold Jesus, he went and hanged himself from a tree just outside the city walls. As you know, the rope broke, and his swollen body fell and burst open, and the dogs came and ate his intestines. It was a horrible sight. So the priests took the money he had returned and bought a field where they buried him.

หลังจากที่เขาขายพระเยซู เขาก็ไปผูกคอตายที่ต้นไม้ใกล้กำแพงเมือง ท่านทั้งหลายคงทราบว่า เชือกขาด และร่างที่พองของเขาตกลงมาแตกออก แล้วสุนัขก็มากินไส้ของเขา เป็นภาพที่น่ากลัวมาก ดังนั้น ปุโรหิตจึงเอาเงินที่เขาคืนมาและซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเพื่อฝังเขา

 

19 Everyone in Jerusalem knew about it and they now call that field Akeldama, which means The Field of Blood.

ทุกคนในกรุงเยรูซาเล็มรู้เรื่องนี้ และพวกเขาเรียกทุ่งนั้นว่าอาเคลดามา ซึ่งแปลว่า "ทุ่งโลหิต"

20 Peter continued, “This is what is written in the book of Psalms: ‘May his place be deserted; let there be no one to dwell in it,’ and, ‘May another take his place of leadership.’

 เปโตรกล่าวต่อว่า "นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือสดุดีว่า 'ขอให้ที่ของเขารกร้าง และอย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในนั้น' และ 'ขอให้อีกคนหนึ่งมารับตำแหน่งของเขา'

21 Therefore, it is necessary to choose one of the men who have been with us the whole time the Lord Jesus was living among us,

 เพราะฉะนั้น จำเป็นที่เราจะต้องเลือกคนหนึ่งจากบรรดาชายที่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเรา

 

22 beginning from John’s baptism to the time when Jesus was taken up from us. For one of these must become a witness with us of his resurrection.”

ตั้งแต่การบัพติศมาของยอห์น จนถึงเวลาที่พระเยซูถูกยกขึ้นจากเรา เพราะว่าคนหนึ่งในกลุ่มนี้ต้องมาเป็นพยานกับเราในเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์"

23 So they nominated two men: Joseph called Barsabbas (also known as Justus) and Matthias.

ดังนั้น พวกเขาจึงเสนอชื่อชายสองคน คือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส (หรือที่รู้จักในชื่อยูสทัส) และมัทธิอัส

 

24 Then they prayed, “Lord, you know everyone’s heart. Show us which of these two you have chosen

จากนั้นพวกเขาอธิษฐานว่า "ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงรู้ใจของทุกคน ขอทรงแสดงให้เรารู้ว่าในสองคนนี้ พระองค์ทรงเลือกใคร

 

25 to take over this apostolic ministry, which Judas left to go where he belongs.”

ให้มาแทนที่ในพันธกิจของอัครสาวก ซึ่งยูดาสได้ละทิ้งเพื่อไปยังที่ที่เขาควรอยู่"

 

26 Then they cast lots, and the lot fell to Matthias; so he was added to the eleven apostles.

แล้วพวกเขาก็จับฉลาก และฉลากนั้นตกที่มัทธิอัส เขาจึงถูกเพิ่มเข้ากับอัครสาวกสิบเอ็ดคน

 

Write a comment

Comments: 0