The Fall of Man
การตกต่ำของมนุษย์
1 Of all the animals, the serpent was the most beautiful and intelligent that God had made. One day Satan used the serpent to speak to Eve. When she came close to
the forbidden tree, the serpent said, "Didn't God restrict your freedom by not letting you eat from any tree you wanted?"
1 ในบรรดาสัตว์ทั้งหมด งูเป็นสัตว์ที่สวยงามและฉลาดที่สุดที่พระเจ้าทรงสร้าง วันหนึ่งซาตานใช้งูพูดคุยกับเอวา เมื่อเธอเข้าไปใกล้ต้นไม้ต้องห้าม งูก็พูดว่า
“พระเจ้าไม่ได้จำกัดเสรีภาพของคุณด้วยการไม่ให้คุณกินผลไม้จากต้นไม้ที่คุณต้องการหรือ”
2 Eve was startled, but instead of fleeing to Adam's side, she answered, "God didn't restrict our freedom. We may eat of any tree in the garden that we want
to
2 เอวาตกใจ แต่แทนที่จะหนีไปหาอาดัม เธอกลับตอบว่า “พระเจ้าไม่ได้จำกัดเสรีภาพของเรา เราสามารถกินผลไม้จากต้นไม้ต้นใดก็ได้ในสวนที่เราต้องการ
3 except this one which is in the middle. God asked us not to eat of it or even to touch it, or we'll die."
3 ยกเว้นต้นนี้ซึ่งอยู่ตรงกลาง พระเจ้าขอให้เราไม่กินหรือแตะต้องมัน มิฉะนั้นเราจะตาย”
4 Satan, through the serpent, said, That's a lie. You won't die.
4 ซาตานพูดผ่านงูว่า นั่นเป็นเรื่องโกหก คุณจะไม่ตาย
5 The reason God told you that is because He knows that there is supernatural power in this tree, and as soon as you eat its fruit, you'll be as intelligent as He is
and will be able to decide for yourself what is good and evil."
5 เหตุผลที่พระเจ้าบอกคุณเช่นนั้นก็เพราะพระองค์ทรงทราบว่าต้นไม้ต้นนี้มีพลังเหนือธรรมชาติ และทันทีที่คุณกินผลไม้นั้น
คุณจะฉลาดเท่ากับพระองค์และจะสามารถตัดสินใจเองว่าอะไรดีและอะไรชั่ว”
6 As Eve watched the serpent eat the delicious fruit, she suddenly felt a strong urge to taste it too. She reached out and touched the fruit and nothing happened.
Then she picked it, took a bite and instantly felt a surge of energy. Excited, she took more fruit and ran to find her husband. When Adam saw her, he sensed what she had done. But in the blush of
her excitement, she looked more beautiful than ever. He couldn't bear the thought of living without her, so he took the fruit and ate it also.
6 ขณะที่เอวาเฝ้าดูงูกินผลไม้แสนอร่อย เธอรู้สึกอยากลองชิมมันด้วยอย่างกะทันหัน เธอเอื้อมมือไปแตะผลไม้นั้น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นเธอก็เก็บมัน กัดมัน
และรู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที เธอตื่นเต้นมาก จึงกินผลไม้เพิ่มและวิ่งไปหาสามีของเธอ เมื่ออาดัมเห็นเธอ เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เธอทำ แต่ด้วยความตื่นเต้นของเธอ เธอกลับดูสวยกว่าที่เคย
เขาไม่สามารถทนคิดว่าต้องอยู่โดยไม่มีเธอได้ จึงหยิบผลไม้นั้นมากินด้วย
7 As soon as he did, their eyes were opened to the true character of what they had done. The light of God's presence disappeared and they stood there naked.
Now, for the first time, they felt shame. Taking some fig leaves, they fashioned coverings for themselves.
7 ทันทีที่เขาทำเช่นนั้น ดวงตาของพวกเขาก็เปิดออกให้เห็นลักษณะที่แท้จริงของสิ่งที่พวกเขาทำ แสงแห่งการประทับของพระเจ้าหายไป และพวกเขายืนเปลือยกายอยู่ที่นั่น ตอนนี้
พวกเขารู้สึกละอายเป็นครั้งแรก พวกเขาจึงหยิบใบมะกอกมาทำผ้าคลุมตัว
8 In the cool of the morning they heard God walking in the garden looking for them. Adam and Eve ran and hid among the trees.
8 ในความเย็นของ เช้าวันนั้นพวกเขาได้ยินพระเจ้าเดินตามหาพวกเขาในสวน อาดัมกับเอวาจึงวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้
9 God called to the man, "Adam, where are you?"
9 พระเจ้าทรงเรียกชายคนนั้นว่า “อาดัม เจ้าอยู่ที่ไหน”
10 Then Adam came out from among the trees and said, "I heard you coming and I was afraid. I was ashamed for you to see me because the light of your presence was
gone. So I hid."
10 อาดัมจึงออกมาจากท่ามกลางต้นไม้และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเจ้ามาและข้าพเจ้าก็กลัว ข้าพเจ้าละอายที่เจ้าเห็นข้าพเจ้า เพราะแสงแห่งการปรากฏกายของเจ้าหายไป
ข้าพเจ้าจึงซ่อนตัวอยู่”
11 "God said, "Who made you realize that you were naked? Did you eat fruit from the tree I told you not to?"
11 พระเจ้าตรัสว่า “ใครทำให้เจ้ารู้ว่าเจ้าเปลือยกาย เจ้ากินผลไม้จากต้นไม้ที่เราบอกเจ้าไม่ให้กินหรือ?”
12 Adam answered, "The woman you gave me ate from the tree first, then she offered it to me and I ate it."
12 อาดัมตอบว่า “ผู้หญิงที่เจ้าให้ข้าพเจ้ากินผลไม้จากต้นไม้ก่อน แล้วนางก็ยื่นให้ข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็กิน”
13 God turned to the woman and said, "What have you done? Why did you tempt your husband to eat?" The woman answered, "The serpent you created tricked me into eating
from that tree."
13 พระเจ้าหันไปหาผู้หญิงคนนั้นและตรัสว่า “เจ้าทำอะไรลงไป? เหตุใดเจ้าจึงล่อลวงสามีให้กิน” หญิงนั้นตอบว่า
“งูที่เจ้าสร้างขึ้นหลอกล่อให้เรากินผลไม้จากต้นไม้ต้นนั้น”
14 Then God said to the serpent, "Because you were used as a tool of Satan, I cannot continue to let you be the most beautiful creature in the garden. You will now
be lower than any of the animals and will crawl on the ground eating its dust.
14 พระเจ้าจึงตรัสกับงูว่า “เพราะเจ้าถูกใช้เป็นเครื่องมือของซาตาน เราจึงปล่อยให้เจ้าเป็นสัตว์ที่สวยงามที่สุดในสวนนี้ไม่ได้อีกต่อไป เจ้าจะต่ำต้อยกว่าสัตว์ใดๆ
และจะคลานไปบนพื้นดินกินฝุ่นดิน
15 Also, I will place a hatred of sin in the heart of the woman and her descendants. This hatred of sin will find its ultimate expression in One of her offspring.
Satan, like a striking serpent, will try to kill Him, but as a man crushes the head of a poisonous snake with his bare heel to save his children—knowing he will die—so the Savior will sacrifice
His own life to save those who love Him, and He will utterly crush the serpent's head."
15 และเราจะปลูกฝังความเกลียดชังบาปไว้ในใจของผู้หญิงและลูกหลานของเธอ ความเกลียดชังบาปนี้จะแสดงออกถึงขั้นสุดขีดในลูกหลานของเธอ
ซาตานจะพยายามฆ่าเขาเหมือนงูที่กัดแทะหัวงูด้วยส้นเท้าเปล่าเพื่อช่วยชีวิตลูกๆ ของเขา โดยรู้ว่าเขาจะต้องตาย พระผู้ช่วยให้รอดจะสละชีวิตของพระองค์เองเพื่อช่วยชีวิตผู้ที่รักพระองค์
และพระองค์จะบดขยี้หัวงูจนสิ้นซาก”
16 Turning to the woman, God said, "Because you have sinned, childbearing will be very painful for you. And because you desired to control your husband, you will be
subject to him."
16 พระเจ้าหันไปหาผู้หญิงคนนั้นและตรัสว่า “เพราะเจ้าได้ทำบาป การคลอดบุตรจะเจ็บปวดมากสำหรับเจ้า และเพราะเจ้าปรารถนาที่จะควบคุมสามี
เจ้าจะต้องอยู่ใต้อำนาจของเขา”
17 Then God said to Adam, "Because you listened to your wife when you knew better and you ate fruit from the tree I told you not to eat from, you will live a life of
toil. The soil will be hard to work and sorrow will follow you throughout your life.
17 แล้วพระเจ้าตรัสกับอาดัมว่า “เพราะเจ้าฟังภรรยาของเจ้าเมื่อเจ้ารู้ดีและเจ้ากินผลไม้จากต้นไม้ที่เราบอกเจ้าว่าอย่ากิน เจ้าจะต้องใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อย
ดินจะยากแก่การเพาะปลูกและความเศร้าโศกจะติดตามเจ้าไปตลอดชีวิต
18 You will contend with thorns and thistles, and you will have to grow vegetables to survive.
18 เจ้าจะต้องต่อสู้กับหนามและพืชมีหนาม และเจ้าจะต้องปลูกผักเพื่อความอยู่รอด
19 By the sweat of your brow you will have to earn your bread, and it will be a struggle to provide for yourself and your family. When your life is over, you will be
buried in the ground out of which you were taken. You are made of dust and to dust you will return."
19 เจ้าจะต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพด้วยเหงื่อที่ไหลอาบหน้า และจะต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เมื่อชีวิตของเจ้าสิ้นสุดลง
เจ้าจะถูกฝังในดินที่เจ้าถูกสร้างมา เจ้าถูกสร้างจากฝุ่นดิน และเจ้าจะกลับเป็นฝุ่นดินอีก”
20 Adam named his wife Eve, because she would become the mother of all human life, including the One who would break the power of sin and death.
20 อาดัมตั้งชื่อภรรยาของเขาว่าเอวา เพราะเธอจะเป็นแม่ของชีวิตมนุษย์ทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่จะทำลายอำนาจของความบาปและความตาย
21 But God didn't carry out their sentence that day. He told them He had a plan to save them. Adam must sacrifice a lamb as a symbol of the One who would come and
die in their place. God then took the lamb's skin to cover Adam and Eve's nakedness.
21 แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงลงโทษพวกเขาในวันนั้น พระองค์บอกพวกเขาว่าพระองค์มีแผนที่จะช่วยชีวิตพวกเขา
อาดัมต้องสังเวยลูกแกะเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่จะเสด็จมาและสิ้นพระชนม์แทนพวกเขา จากนั้นพระเจ้าจึงทรงเอาหนังลูกแกะมาปิดบังความเปลือยเปล่าของอาดัมและเอวา
22 God said to His Son, "Man was like us, but he has changed. He now knows good and evil, so he's infected with sin. If we leave him in the gar-den and he continues
to eat from the Tree of Life, he will never die, and he and his descendants will live in sin forever. We can't let this happen."
22 พระเจ้าตรัสกับพระบุตรของพระองค์ว่า “มนุษย์ก็เหมือนเรา แต่เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขารู้ดีและชั่วแล้ว ดังนั้นเขาจึงติดเชื้อบาป
ถ้าเราทิ้งเขาไว้ในสวนและเขายังคงกินผลจากต้นไม้แห่งชีวิตต่อไป เขาจะไม่มีวันตาย และเขากับลูกหลานของเขาจะต้องอยู่ในบาปตลอดไป เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้”
23 So God sent Adam and Eve out of the Garden of Eden to till the soil. There they would live and work until they died.
23 ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงส่งอาดัมกับเอวาออกจากสวนเอเดนเพื่อทำไร่นา ที่นั่นพวกเขาจะอาศัยและทำงานอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพวกเขาตาย
24 Near the garden He stationed angels whose beams of light looked like flaming swords, so no one would eat of the Tree of Life again.
24 พระองค์ทรงวางทูตสวรรค์ไว้ใกล้สวนซึ่งมีลำแสงที่ดูเหมือนดาบเพลิง เพื่อที่ไม่มีใครจะได้กินผลจากต้นไม้แห่งชีวิตอีกต่อไป
Write a comment